วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รวมคำศัพท์ที่น่าสนใจจาก Twitter

One by One = ทีละคน
One to One = สองต่อสอง (พูดคุยกัน)
One on One = ตัวต่อตัว (ต่อสู้)

Single = โสด
Marry = เเต่งงาน
Engage = หมั้นหมาย
Divorce = อย่าร้าง
Widow = หม้าย

Work Hard = ขยันทำงาน
Hard work = งานหนัก

Wake up = ตอนที่ลืมตาตื่น
Get up = ตอนที่ลุกจากเตียง เพื่อไปเริ่มวันใหม่

I'm scary = ฉันน่ากลัว
I'm Scared = ฉัน (รู้สึก) กลัว

Walk around  = เดินเล่น
Drive around = ขับรถเล่น
Sit around = นั่งเล่น
Nap = นอนเล่น
Sleep around = นอนไปทั่วหรือสำส่อน

Kindergarten = อนุบาล
Primary School = ประถม
High/middle school = มัธยม
Bachelor = ปริญญาตรี
Master's degree = ปริญญาโท
Ph.D. = ปริญญาเอก

Legal = ซึ่งถูกตามกฎหมาย
Illegal = ซึ่งผิดกฎหมาย
Unlawful = ผิดกฎหมาย

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

มักง่าย สะเพร่า ชุ่ย ภาษาอังกฤษ


วันนี้ English by @sukanda_naka ขอนำเสนอคำว่า มักง่าย สะเพร่า เผางาน ชุ่ย ภาษาอังกฤษค่ะ
คำว่า มักง่าย สะเพร่า เผางาน ชุ่ย พูดกันอย่างนี้ค่ะ

It is sloppy "ชุ่ย"
Minimalist "ทำน้อยที่สุด"
Mediocre "ไม่ค่อยดี งั้นๆ ธรรมดาๆ"


มาดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ

He did a mediocre.
He is a minimalist.
He did that job careless.
He did a really sloppy job.


มาดูประโยคอื่นๆ กันค่ะ

I don't care about my work.
He was just trying to get it done.
I just wanna get it over with







วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

แอ๊บแบ๊ว ภาษาอังกฤษ

ช่วงนี้เห็นใครๆ เซลฟี่ก็ชอบทำเเอ๊บเเบ๊วกันบ่อยๆ วันนี้ Enเlish by @sukanda_naka ก็เลยจะขอนำเสนอคำว่า เเอ๊บเเบ๊ว ภาษาอังกฤษ  ค่ะ (พอดีไปเรียนกับอาจารย์อดัม ใน You tube มา เเบบว่าร้อนวิชา อยากเเชร์ค่ะ อิอิ)

คำว่า แอ๊บเเบ๊ว ไร้เดียงสา เเก้มป่อง ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า
To act cute หรือ To act innocent นั่นเองค่ะ ง่ายนิดเดียว เรามาลองดูประโยคตัวอย่างกันนะคะ
  • She is trying to act innocent and cute.
  • She is making a cute face.
  • She is making a puffy face.(ทำลักษณะเเก้มป่องนะคะ)
  • To make a peace sign. (ทำท่าทางชูมือ 2 นิ้วน่ะค่ะ)






วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นิสัยไม่ดี (กวนตีน) ภาษาอังกฤษ

วันนี้ English by @sukanda_naka ขอเสนอคำศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า "กวนประสาท" หรือถ้าพูดเเบบภาษาชาวบ้านก็เรียกกันว่า กวนตีน นั่นเองค่ะ เอาล่ะค่ะ มาดูซิ คำว่า กวนประสาทหรือกวนตีน ภาษาอังกฤษเขาพูดยังไง

Bad ass คนนิสัยไม่ดี (คนกวนตีน)
Obnoxious กวนตีน (เฉยๆ) (He's so obnoxious เขาเป็นคนกวนประสาท/กวนตีน)
Over the moon มีความสุขอย่างล้นเหลือ
Nothing is certain in this life except death and taxes ในชีวิตนี้ไม่มีอะไรเเน่นอนยกเว้นการตายเเละการเสียภาษี
 Nothing is certain in this life ชีวิตนี้ไม่มีอะไรเเน่นอน
Hanging out ชิวๆ (นั่งสบายๆ ไม่ได้ทำอะไรพิเศษ เช่น I my holiday. I like to hang out with my friend.)
He's one sick puppy เขาเป็นคนบ้าจริงๆ
At arm's length ใกล้เเค่เอื้อม
He's very straight forward./ He's a straight-forward person เขาเป็นคนตรงไปตรงมา(เป็นคนตรงๆ)
You're drop dead cute. คุณสวยมากๆๆๆ
It's difficult, I can do it, though. มันยาก เเต่ฉันทำได้


วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

I'm a mess หมายถึงอะไร


วันนี้ English by @sukanda_naka ขอนำเสนอคำศัพท์ที่น่าสนใจเอามากๆ ที่คิดว่าใครหลายๆ คนอาจจะอยากรู้มาฝากค่ะ....ตามมาดูกันเลย

I'm a mess ฉันเเย่ ฉันอยู่ในสภาพที่ไม่ดี

To be off (ย่อมาจาก I would be best if I was off) ไปดีกว่า, ไปที่ใดที่หนึ่ง

Unapologetic ไม่รู้สึกอับอายในสิ่งที่ทำ ไม่เกิดความรู้สึกว่าต้องขอโทษในสิ่งที่เป็นหรือทำ

Why do you like to be so obnoxious?  ทำไมเธอชอบทำตัวงี่เง่า/ไร้สาระอยู่เรื่อย

We'r just friends  เราเเค่เพื่อนกัน

I've sprained my neck from sleeping on it wrong way. ปวดคอ เพราะคอตกหมอน

I'm not that good a person. หรือ I'm not as good as your think. เราไม่ได้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้น

จบเเล้วค่ะ สำหรับคำศัพท์ในวันนี้ อย่าลืมเอาไปใช้นะคะ ลองฝึกใช้บ่อยๆ จะได้เก่งๆ นะคะ 

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

8 คำอังกฤษ ที่ใช้ผิดมาตลอด

ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลที่ทั่วโลกใช้เป็นภาษากลางเพื่อการสื่อสาร แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ประโยคภาษาอังกฤษที่คนไทยฮิตติดปากกัน บางคำอาจเข้าใจใช้จนชิน โดยที่ไม่รู้ว่าฝรั่งเขาฟังไม่รู้เรื่อง จะมีคำอะไรบ้างนั้น รีบดูให้ไวเลย

1.อินเทรนด์ (in trend) คำนี้อินเทรนด์มากๆ เอ๊ย...ฮิตมากๆ ในปัจจุบัน สามารถได้ยินตามรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ทั่วไป เพราะใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น เด็กสมัยนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์ต้องตามแฟชั่นเกาหลี ซึ่งบางทีเวลาคุณต้องการพูดว่า "มันทันสมัย" คุณอาจจะติดปากว่า "It is in trend." คำว่า "ทันสมัย" ฝรั่งเค้าไม่ใช้คำว่า "in trend" อย่างคนไทยเค้าจะใช้คำว่า "trendy" หรือ "fashionable" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่คุณสามารถวางไว้หน้าคำนามที่ต้องการขยาย เช่น a trendy haircut ทรงผมที่ทันสมัย, a fashionable restaurant ร้านอาหารที่ทันสมัย หรือจะไว้หลัง verb to be เช่น It is trendy. หรือ It is fashionable. ก็ได้

2.เว่อร์(over) เช่น เธอคนนั้นทำอะไรเว่อร์ๆ She is over. ไม่มีความหมายแต่อย่างใดในภาษาอังกฤษ ฝรั่งที่ได้ยินคุณพูดเช่นนี้ คงมึนตึบ พร้อมทำสีหน้างงว่ามันหมายถึงอะไรเหรอ? พูดถึงคำนี้ คนไทยน่าจะหมายถึงการพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง ซึ่งถ้าพูดเกินจริง ควรจะใช้คำศัพท์ที่ว่า "exaggerate" เป็นคำกิริยา อ่านว่า เอก-แซ้ก-เจ่อ-เรท ตัวอย่างเช่น

"He said you walked 30 miles." เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์ 

"No - he's exaggerating. It was only about 15." ไม่หรอก เค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง

ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate. ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคือการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า "overact" เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง)

3.ดูหนัง soundtrack เวลาคุณจะบอกใครว่า ฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ภาษาอังกฤษ อย่าพูดว่า "I want to watch a soundtrack film." แต่ควรจะใช้ว่า "I want to watch an English film." เพราะความหมายของคำว่า "soundtrack" คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ ต่างหาก

ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า "I want to watch an English film that is dubbed into Thai." เพราะคำกิริยาว่า "dub" คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนังหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็นภาษาอื่น ส่วนหนังที่มีคำบรรยายใต้ภาพเราเรียกว่า "a subtitled film" ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า "subtitles" (ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะครับ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ

หนังบางเรื่องจะมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นักแสดงพูด เรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า "closed-captioned films/คำหวงห้าม/television programs" หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า "CC" เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มีคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ

4.นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า "freshy" ซึ่งฝรั่งไม่รู้เรื่องเพราะไม่มีการบัญญัติศัพท์คำนี้ในภาษาอังกฤษ เค้าจะใช้คำว่า "fresher" หรือ "freshman" เช่น He is a fresher. หรือ He is a freshman. หรือ He is a first-year student. เขาเป็นนักศึกษาปี 1 ส่วนปีอื่นๆ คนไทยเรียกถูกแล้วครับ คือ ปี 2 เราเรียก a sophomore, ปี 3 เรียกว่า a junior และ ปี 4 เรียกว่า a senior

5.อัดหรือบันทึก คนไทยมักพูดทับศัพท์ว่า เร็คคอร์ด (record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรก คือ "เร็ค-คอร์ด" เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง, I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่แปลว่า อัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลัง ซึ่งจะอ่านว่า "รี-คอร์ด" เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนัง เราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้ ส่วนเครื่องบันทึก เราเรียกว่า "recorder" อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์

6.ต่างคนต่างจ่าย เรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ายให้ใช้ว่า "Let's go Dutch." หรือ "Go Dutch (with somebody)." อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่า? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า "You pay for yourself." คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่างจ่าย แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือ(ไม่ใช่เล่นไพ่นะคะ)เลี้ยงมื้อนี้เอง คุณควรพูดว่า "It's my treat this time." หรือ "My treat." หรือ "It's on me." หรือ "All is on me." หรือ "I'll pay for you this time." ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืน ให้บอกว่า "It's your treat next time."

7.ขอฉันแจม (jam) ด้วยคน ในกรณีนี้คำว่า "แจม" น่าจะหมายถึง "ร่วมด้วย" เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอก เธอจะไปด้วยมั้ย? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า "Do you want to join us?", "Do you want to come with us?" หรือ "Do you want to come along?" จะดีกว่า

8.เขามีแบ็ค (back) ดี "He has a good back." ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้ "a backup" ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลังใจให้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.teenee.com


วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เราไม่ควรรู้จักกันเลย ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไงนะ

สวัสดีค่ะ เป็นประจำของทุกวัน เวลา 11.00 โมงเช้าแบบนี้ ที่เราจะมาเข้ามาเจอกันที่นี่ บล๊อกนี้ English by @sukanda_Naka เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงพร้อมที่จะเติมสิ่งใหม่ๆ ลงไปในสมองอันปราดเปรื่องกันแล้วนะคะ สำหรับบทเรียนภาษาอังกฤษที่จะนำมาอัพเดทในกันวันนี้ก็เป็นประโยคสั้นๆ ง่ายๆ จิ๊บๆ ไม่ต้องจำเยอะ ตามไสตล์ @sukanda_Naka ......

วันนี้ของนำเสนอคำว่า "เราไม่ควรรู้จักกันเลย" ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไง (อ่านเจอใน Twitter อาจารย์ Adam)

"เราไม่ควรรู้จักกันเลย" ภาษาอังกฤษ พูดว่า Maybe it would have been better if you have never know each other.

ขอเเถมอีกสัก 5 ประโยคนะคะ พอดีมันเป็นประโยคที่น่าสนใจมากๆ

Someday my day will come. สักวันจะเป็นวันของฉัน

stop complaining! เลิกบ่นได้เเล้ว

I got chewed out! ฉันโดนด่า

sometime you have to struggle before you succeed. บางทีต้องดิ้นรนก่อนที่จะประสบความสำเร็จ

Why do you always try to get attention? ทำไมชอบเรียกร้องความสนใจ